สำหรับการดูแลเรื่องอาหารการกินกับลูกๆแล้ว เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องพิถีพิถันใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะอาหารที่ลูกทานเข้าไปจะไปช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกน้อยของเรา ถ้าเป็นเด็กที่โตหน่อยก็ยังพอคุยพอถามกันได้ว่าอยากกินอะไร ชอบอะไรบ้าง แต่ถ้ายังเป็นทารก คุณพ่อคุณแม่จะเป็นผู้ที่ตัดสินใจเลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์มาให้ลูกน้อยรับประทาน
สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ หรือบางคนอาจมีลูกมาหลายคนแล้ว แต่อาจจะยังไม่เคยได้ยินคำว่า Finger Food กันเลย สำหรับคำว่า Finger Food นั้นหมายถึงอาหารที่มีขนาดเล็กพอดีคำ ลุกน้อยของเราสามารถหยิบจับมาเข้าปากเองได้ เป็นอาหารที่มีประโยชน์และช่วยในเรื่องของพัฒนาการของเด็ก แต่ก็ยังต้องเป็นที่ระวังสำหรับคุณพ่อคุณแม่ด้วยว่า ควรเอาอะไรมาให้ลูกน้อยทานเพราะถ้าหากอาหารนั้นยังไม่เหมาะกับอายุของลูกน้อยแม้จะทำเป็นชิ้นพอดีคำก็อาจอันตรายกับลูกเราได้ ดังนั้นการทาน Finger Food ควรอยู่ในสายตาของคุณพ่อคุณแม่ตลอดเวลา
สำหรับทารกแรกเกิดจนถึง 6 เดือนทางแพทย์และพยาบาลจะสอนก่อนออกจากโรงพยาบาลอยู่แล้วว่าไม่ให้ทารกทานอาหารอื่นนอกจากน้ำนมแม่เท่านั้น หลังจาก 6 เดือนไปแล้วคุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมอาหารอ่อนๆเหลวๆไว้ให้ทารกเริ่มหัดรับประทาน และในช่วง 8-9 เดือนนั้นพวกเขาก็พร้อมแล้วที่จะเริ่มหัดเรียนรู้ที่จะหยิบอาหารขึ้นมาทานด้วยตัวเอง ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ถือเป็นพัฒนาการ การเรียนรู้ตามวัยของลูกน้อย ช่วงในวัยนี้คุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกลองหัดหยิบจับอะไรกินเอง เพื่อให้กล้ามเนื้อของลูกมีความแข็งแรง
Finger Food ที่เหมาะกับทารกวัย 8-9 เดือนนี้นั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกอาหารที่นิ่มๆ และไม่ควรชิ้นใหญ่ควรหั่นให้พอดีคำกับลูกของเราเพราะลักษณะอาหารที่เราเลือกให้ลุกนั้นมันมีผลต่อการเคี้ยวและกลืนของลูกน้อย ตัวอย่างอาหารที่เหมาะสมคือ ไข่กวน ไข่คน ผลไม้เนื้อนิ่ม เช่นกล้วย มะละกอ อะโวคาโด ผักที่ต้มสุกจนนิ่มอย่าง บร็อคโคลี่ หรือพวกเนื้อไก่เนื้อปลาที่เอากระดูกและก้างออก
แล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ หรือพวกซุปน้ำข้นต่างๆ คุณพ่อคุณแม่ ไม่ควรเลือกอาหารที่มีความแข็ง หรือชิ้นใหญ่เพราะจะเป็นอันตรายเวลาที่ลูกน้อยเคี่ยวหรือกลืนเนื่องจากช่วงวัยนี้ ลูกน้อยควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อการเจริญเติบโตทั้งของสมอง และกล้ามเนื้อ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจเลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์ให้ลูกเป็นพิเศษ สำหรับอาหารแปลรูป มีน้ำตาลสูงไม่ควรนำมาให้ลูกรับประทาน และที่สำคัญควรอยู่ใกล้ชิดคอยดูตอนลูกหยิบอาหาเข้าปากตลอดเวลา เผื่อมีอะไรผิดปกติ หรือเขาสำลักจะได้ช่วยเหลือได้ทัน
สนับสนุนโดย ชุดตรวจ hiv