เช็กด่วน! ปวดประจำเดือนมากจนผิดสังเกตอาจเสี่ยงโรคอะไรบ้าง?

อาการปวดประจำเดือน (Dysmenorrhea) เป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงหลายคนต้องเผชิญ แต่เมื่อปวดมากจนผิดสังเกต เช่น ปวดจนทนไม่ไหว หรือมีอาการปวดที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการตรวจสอบและดูแลอย่างถูกต้อง

 

  1. โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

โรคนี้เกิดขึ้นเมื่อเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตนอกโพรงมดลูก เช่น บริเวณรังไข่ ท่อนำไข่ หรือเนื้อเยื่อรอบๆ อวัยวะในอุ้งเชิงกราน อาการที่พบได้บ่อยคือปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง ปวดท้องระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ปวดเวลาขับถ่าย หรือมีบุตรยาก ความรุนแรงของอาการปวดไม่ได้สัมพันธ์กับระดับของโรค บางคนอาจมีอาการปวดมากแม้ว่าโรคจะยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น

  1. โรคซีสต์ในรังไข่ 

ซีสต์ในรังไข่สามารถทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนที่รุนแรง โดยเฉพาะเมื่อซีสต์เกิดการแตกหรือมีขนาดใหญ่ ซีสต์บางชนิดอาจเป็นสาเหตุของความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้มีอาการปวดที่ผิดปกติ หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ

  1. โรคมดลูกเย็น 

โรคนี้เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเข้ามาในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อมดลูก ส่งผลให้มดลูกบวมและหนาขึ้น ทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนที่รุนแรง ประจำเดือนมามาก และมีอาการปวดท้องช่วงมีประจำเดือนที่ไม่ธรรมดา โรคนี้มักพบในผู้หญิงวัยกลางคนที่มีบุตรแล้ว

  1. โรคเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ 

โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อในอวัยวะสืบพันธุ์ในอุ้งเชิงกราน เช่น มดลูก ท่อนำไข่ หรือรังไข่ โดยทั่วไปจะเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องน้อยร่วมกับปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษา โรคนี้อาจนำไปสู่ภาวะมีบุตรยากได้

  1. โรคเนื้องอกมดลูก 

เนื้องอกมดลูกเป็นเนื้องอกที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของกล้ามเนื้อมดลูก แม้ว่าจะเป็นเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง แต่สามารถทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะเมื่อเนื้องอกมีขนาดใหญ่หรือเกิดในตำแหน่งที่มีผลกระทบต่อการบีบตัวของมดลูก นอกจากอาการปวดแล้ว ผู้ป่วยอาจมีประจำเดือนมามาก หรือประจำเดือนเป็นเวลานานกว่าปกติ

  1. โรคมะเร็งในระบบสืบพันธุ์ 

ในบางกรณี อาการปวดประจำเดือนที่รุนแรงอาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งในระบบสืบพันธุ์ เช่น มะเร็งมดลูก มะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งปากมดลูก โรคเหล่านี้มักมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น มีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน น้ำหนักลด หรือลำไส้ทำงานผิดปกติ การตรวจพบโรคในระยะแรกเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

  1. โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ 

แม้ว่า IBS จะไม่ใช่โรคในระบบสืบพันธุ์ แต่อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องที่รุนแรงช่วงมีประจำเดือนได้ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ร่วมด้วย อาการปวดท้อง อืดท้อง ท้องผูก หรือท้องเสียในช่วงที่มีประจำเดือนอาจเกิดขึ้นเนื่องจากความไวของลำไส้ที่เพิ่มขึ้น

 

การปวดประจำเดือนที่รุนแรงและผิดปกติไม่ควรมองข้าม การตรวจสุขภาพประจำปีและปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติจะช่วยในการวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและรักษาได้ทันเวลา

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย      ทัวร์คาสิโนเวียดนาม